วิธีการตรวจสอบใบสั่งค้างชำระของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับผู้ใช้รถยนต์ทุกคน
ประกาศกรมการขนส่งทางบก เลขที่ ๒๐๒๒/๑๔๘ ลงวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๖ เรื่อง การเสียค่าปรับตามใบสั่ง ผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมายจราจรทางบก ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๖ เป็นต้นไป จะต้องชำระค่าปรับตามใบสั่งภายใน ๗ วัน หากไม่ชำระค่าปรับภายในกำหนด เลขที่ใบสั่งจะถูกบันทึกลงในระบบของกรมการขนส่งทางบก
ผู้ใช้รถยนต์สามารถตรวจสอบใบสั่งค้างชำระได้จากเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก https://www.dlt.go.th/th/ หรือแอปพลิเคชัน DLT Smart License โดยใช้หมายเลขป้ายทะเบียนรถยนต์หรือหมายเลขใบขับขี่
หากพบว่ามีใบสั่งค้างชำระ ผู้ใช้รถยนต์จะต้องชำระค่าปรับได้ด้วยวิธีการดังนี้ ชำระผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart License ชำระผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก ชำระผ่านเคาร์เตอร์ของกรมการขนส่งทางบก ชำระผ่านเคาร์เตอร์ของกรุงไทย ชำระผ่าน ATM, Counter Service, iBanking, mPay, True Money Wallet
หากพบว่ามีใบสั่งค้างชำระ ผู้ใช้รถยนต์จะต้องชำระค่าปรับได้ด้วยวิธีการดังนี้
ถ้ามีใบสั่งค้างชำระค่าปรับจะมีผลอย่างไรในการต่อภาษี และ พรบ.ประกันรถยนต์
ใบสั่งค่าปรับที่ค้างชำระเป็นหนี้ของผู้ขับขี่ที่ต้องชำระให้แก่รัฐ ถ้าไม่ชำระหนี้นี้ จะมีผลกระทบต่อการต่อ ภาษี และ พรบ.รถยนต์ ประจำปีได้ ดังนี้ อาจจะไม่สามารถต่อภาษี / พรบ.ประกันรถยนต์ ประจำปีได้ เนื่องจากเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ต้องไม่มีหนี้ค้างชำระใดๆ* ถ้าขับขี่โดยไม่มี พรบ.ประกันรถยนต์ จะผิดกฎหมายและได้รับการลงโทษ ถ้าเกิดอุบัติเหตุและไม่มี พรบ.ประกันรถยนต์ จะไม่ได้รับการชดเชยค่าเสียหายจากกรมธรรม์ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ เช่น เปลี่ยนทะเบียนรถ เปลี่ยนสถานที่จดทะเบียน เปลี่ยนชื่อ-สกุล เปลี่ยนหมายเลขบัตรประชาชน เป็นต้น จะต้องแจ้งให้ทางกรมธรรม์ทราบและอัพเดทข้อมูลใหม่
ใบสั่งค่าปรับที่ค้างชำระเป็นหนี้ของผู้ขับขี่ที่ต้องชำระให้แก่รัฐ ถ้าไม่ชำระหนี้นี้ จะมีผลกระทบต่อการต่อ ภาษี และ พรบ.รถยนต์ ประจำปีได้ ดังนี้
หมายเหตุ* : ปัจจุบันในเวบไซต์กรมการขนส่งทางบก ถ้ามีใบสั่งค้างชำระจะขึ้นในระบบให้ทราบเลย
- การเสียค่าปรับตามใบสั่งนี้จะเริ่มใช้สำหรับ ผู้ที่กระทำความผิด ตั้งแต่ 1 เมย. 66 เป็นต้นไป
- สำหรับผู้ที่กระทำความผิด ก่อน 1 เมย. 66 ใบสั่งจะไม่ขึ้นในระบบ
- กรณีไม่ชำระค่าปรับ แต่ขอชำระภาษี ทางขนส่งจะไม่ออกป้ายวงกลมให้ แต่จะออกเป็นเครื่องหมายชั่วคราวแสดงว่าชำระภาษีแล้ว และเจ้าของรถจะต้องไปเสียค่าปรับให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน และนำใบเสร็จที่ชำระค่าปรับไปขอรับป้ายวงกลมกับขนส่งอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรชำระค่าปรับให้แก่ทางรัฐให้เสร็จสิ้นก่อนการต่อภาษี และ พรบ.ประกันรถยนต์ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดและความเสียหายใดๆ
2 วิธีในการต่อ พรบ.ประกันรถยนต์ ออนไลน์ ง่ายๆ
พรบ.ประกันรถยนต์ เป็นประกันภัยที่ทุกคนที่มีรถยนต์ต้องมี ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือรถเก่า เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ และเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายด้วย แต่การต่อ พรบ.ประกันรถยนต์ ออนไลน์ อาจจะดูยุ่งยากและเสียเวลาสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือไม่มีเวลาไปที่สำนักงานของบริษัทประกันภัย
ดังนั้น เราจึงมีวิธีการต่อ พรบ.ประกันรถยนต์ ออนไลน์ ง่ายๆ สองวิธี ให้คุณได้เลือกใช้
1. ต่อออนไลน์ ในช่องทางออนไลน์ต่างๆ วิธีแรกคือการต่อ พรบ.ประกันรถยนต์ ผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทประกันภัย เช่น เว็บไซต์, Facebook, Line, Call Center เป็นต้น ข้อดี : ของวิธีนี้คือคุณสามารถเลือกบริษัทประกันภัยที่คุณชื่นชอบได้ เพียงแค่กรอกข้อมูลของคุณและข้อมูลของรถยนต์ เช็คเบี้ยประกันและชำระเงินผ่านช่องทางที่สะดวก หลังจากชำระเงินแล้ว คุณจะได้ใบแสดงการจ่ายเบี้ยประกัน (e-Policy) ผ่านทางอีเมลหรือ Line เพื่อใช้เป็นหลักฐานให้แก่เจ้าหน้าที่จราจร
2. ต่อกับนายหน้าประกันออนไลน์ ที่ให้บริการ วิธีที่สองคือการต่อ พรบ.ประกันรถยนต์ ผ่านทางนายหน้าประกันภัย (Broker) ที่ให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์, Facebook, Line, Call Center เป็นต้น ข้อดี : ของวิธีนี้คือคุณไม่ต้องเสียเวลาไปหาข้อมูลของบริษัทประกันภัยเอง เพียงแค่กรอกข้อมูลของคุณและข้อมูลของรถยนต์ นายหน้าประกันภัยจะค้นหาเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับคุณ และให้คำแนะนำในการเลือกบริษัทประกันภัย นอกจากนี้ นายหน้าประกันภัยยังให้บริการหลังการขาย เช่น การดูแลคดี, การต่ออายุ, การเปลี่ยนแปลงข้อมูล เป็นต้น
นายหน้าประกันออนไลน์ กับศรีกรุงโบรคเกอร์ หากคุณสนใจวิธีที่สอง คุณสามารถติดต่อศรีกรุงโบรคเกอร์ เพื่อต่อ พรบ.ประกันรถยนต์ ออนไลน์ ได้ง่ายๆ ศรีกรุงโบรคเกอร์ เป็นมืออาชีพในการให้บริการ มากกว่า 35 บริษัทประกันภัย ที่ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการประกันภัย คุณสามารถเลือกเบี้ยประกันที่ถูกและดีที่สุดได้ หลังจากชำระเงินแล้ว คุณจะได้ใบแสดงการจ่ายเบี้ยประกัน (e-Policy) ผ่านทางอีเมลหรือ Line เพื่อใช้เป็นหลักฐานให้แก่เจ้าหน้าที่จราจร นอกจากนี้หากสมัครเป็นสมาชิกของศรีกรุงโบรคเกอร์ ก็จะมีสิทธิ์ใช้ส่วนลดในการซื้อ พรบ.ประกันรถยนต์ 5-12% เพิ่มเติมได้อีกด้วย
ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งในการต่อ พรบ.ประกันรถยนต์ ออนไลน์ เราหวังว่าคำแนะนำของเราจะมีประโยชน์สำหรับคุณ ขอให้คุณมีการขับขี่ที่ปลอดภัยและสบายใจ
ศรีกรุงโบรคเกอร์ เป็นโบรคเกอร์ประกันครบวงจร ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2533 ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 48 แห่ง มีพันธมิตร มากกว่า 50 บริษัท มีพนักงานประจำที่จะคอยสนับสนุนนายหน้าประกันภัย มากกว่า 600 คน มีบริการเช็คเบี้ย แจ้งงาน 7 วัน 24 ชั่วโมง มีระบบฝึกอบรมมากกว่า 20 หลักสูตร ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อพัฒนาทักษะในต่านต่างๆ อย่างครองคลุม ศรีกรุงโบรคเกอร์เป็นหนึ่งในโบรคเกอร์ ที่ คปภ.คัดเลือก ให้เป็นโบรคเกอร์ดีเด่น 2 ปีซ้อน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพภายในองค์กร มีฐานะการเงินที่มั่นคง รวมทั้งดำเนินธุกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและมีธรรมาภิบาล นอกจากนี้ ศรีกรุงโบรคเกอร์ยังมีแผนการตลาดที่สุดยอด ไม่บังคับยอดขาย ตำแหน่งขึ้นแล้วไม่มีลง สามารถรับรายได้เดือนละเป็นแสนบาท/เดือน จากการสร้างและบริหารทีมขาย ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริษัทในด้านตางๆ ตลอดจนความเป็นเลิศและความทุ่มเทในการให้บริการลูกค้า ศรีกรุงโบรคเกอร์จึงเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับที่ต้องการจะทำธุรกิจประกันภัย
คลิกที่นี่.. หลังจากนั้น กรอกเอกสารให้ครบถ้วน เซ็นต์ชื่อด้วยปากกาน้ำเงิน
ส่งใบสมัคร บัตรประชาชน บัญชีธนาคาร และหลักฐานการโอนเงิน 200 บาท ให้ทีมงาน
เพียงแค่นี้ คุณก็สามารถซื้อประกันภัย ในราคาสมาชิก ตลอดชีพ หักค่าคอมฯ ได้ทันที
เว็บไซต์นี้จัดทำโดยทีมงานทิพย์วิจิตร ไม่ใช่เว็บไซต์ของบริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด ทีมงานจัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลการทำธุรกิจ และเป็นเครื่องมือโปรโมทธุรกิจแก่สมาชิกในสายงานเท่านั้น หากมีข้อสงสัย ติดต่อคุณโชติกา ประจงบัว โทรศัพท์ 0806267157