1. การพัฒนาตัวเองโดยการวางแผนและจัดลำดับความสำคัญของงาน
หลายคนหยุดพัฒนาตัวเอง การเรียนรู้ที่แท้จริงไม่ได้หยุดอยู่ที่ใบปริญญา เรียนจบคือจบแล้ว ไม่ต้องเรียนอะไรต่อแล้ว เพราะถ้าเราหยุดเดิน ในขณะที่โลกกำลังพัฒนาไปข้างหน้า เท่ากับว่าเรากำลังเดินถอยหลัง เมื่อความรู้และทักษะไม่ก้าวไปข้างหน้า ในขณะที่คนใหม่ๆ มีความรู้ความสามารถมากกว่าเรา มีค่าจ้างที่ถูกกว่าเรา เราจะกลายเป็น "ต้นทุน" ขององค์กรมากกว่าการเป็นฟันเฟืองเพื่อสร้างรายได้ เราจะมีโอกาสเป็คน "ไร้ค่า" ในองค์กรได้ง่ายๆ แต่ถ้าตราบใดที่เรายังพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นอยู่สม่ำเสมอ คำว่า "ไร้ค่า" สำหรับองค์กรก็จะไม่เกิดขึ้น
2. พยายามจดจ่อกับเป้าหมายในการพัฒนาตัวเอง
หนึ่งในวิธีการพัฒนาตัวเองเราต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะการตั้งเป้าหมายจะเป็นแรงผลักดันให้เราประสบความสำเร็จ ได้ ในบรรดาคนสำเร็จทุกคนล้วนจะตั้งเป้าหมายไว้เสมอ ไม่มีใครสามารถไปถึงจุดหมาย โดยที่เขาไม่รู้ว่าเขากำลังเดินไปไหน และคนแบบไหนที่เขาอยากเป็น หรือสิ่งไหนที่เขาอยากทำ
จดจ่ออยู่กับสิ่งที่คุณต้องการ และอย่าละสายตาจากเป้าหมายเป็นอันขาด มันจะช่วยทำให้เส้นทางความสำเร็จของคุณนั้นมีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น
3.พัฒนาตัวเองในการทำงานโดยการเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด
แน่นอนทุกๆ คนเคยล้มเหลว ทุกคนเคยผิดพลาด แต่บางทีเราก็ได้อะไรจากความล้มเหลวมากกว่าที่เราคิด แต่ความผิดพลาดก็ทำให้เราโตขึ้น ก้าวหน้า และยังได้เรียนรู้หลายอย่างจากสิ่งที่ผิดพลาดนั้นด้วย จงอย่ากลัวความผิดพลาด เพราะคนที่ไม่เคยผิดพลาดคือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย แถมถ้ายังสามารถสร้างแรงบันดาลใจขึ้นมาจากจุดนั้นได้อีกละก็หยุดไม่อยู่ล่ะทีนี้
4. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยการโฟกัสเพียงหนึ่งอย่าง
เป้าหมายเป็นเรื่องสำคัญ คนไม่มีเป้าหมายคนไม่มีเป้าหมายก็เหมือนคนเดินไปไม่รู้จักทาง โอกาสจะหลงมีมากกว่าครึ่ง เพราะฉะนั้นถ้าไม่หลงและไปถึงจุดหมายโดยเร็ว คุณต้องรู้จักโฟกัสสิ่งที่ต้องการ คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะมีจุดโฟกัสที่ชัดเจน เพราะมันจะทำให้ถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นด้วย
5. ไม่ควรทำงานค้างคา หรือ ทิ้งงานที่ยังไม่เสร็จ
ไม่ว่าจะงานอะไรก็ตามแต่ ก็ไม่ควรจะทิ้งงานนั้นไว้เสียเปล่า การพัฒนาตัวเอง เป็นการเริ่มจากที่คุณทำทุกอย่างสำเร็จได้ไปอย่างลุล่วง ขั้นตอนแรกในการเริ่มทำงานที่ยังไม่เสร็จก็คือ การแบ่งงานออกโดยเรียงจากงานที่สำคัญที่สุดจนไปถึงงานที่คุณไม่จำเป็นต้องนำกลับมาทำอีก เพื่อเพิ่มเวลาให้กับงานที่มีความสำคัญนั่นเอง การทำงานเริ่มจาก การกำหนดวันและเวลาในการทำงานของแต่ละโปรเจ็ค เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงตามเวลานั้น
6. รู้จักจุดอ่อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การพัฒนาตัวเองในการทำงาน
ทุกคนย่อมมีจุดอ่อนที่ต่างกัน เพราะฉะนั้นการดำเนินการจึงมีความแตกต่างโดยการปรับใช้ของแต่ละคนนั่นเอง อย่างที่เราทราบกันดีว่า ไม่มีใครเก่งไปทุกเรื่อง ซึ่งหากคุณมีทักษะที่ดีอยู่แล้วนั้น นานวันก็อาจจะมีคนที่มีทักษะนั้นดียิ่งกว่า เพราะฉะนั้น การพัฒนาตัวเองในการทำงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเริ่มจากการเพิ่มพูนสิ่งที่คุณเก่งอยู่แล้ว และ เริ่มเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองไม่ถนัด เพราะคุณอาจจะจำเป็นต้องใช้ทักษะนั้นในอนาคตหรือนั่นอาจจะเป็นทักษะที่ยังไม่มีคนถนัดมากนักเท่ากับตัวคุณเอง
7. พยายามอัพเดตความรู้ในการทำงานอยู่เสมอ
ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบริษัทหรือเป็นคนที่มีประสบการณ์มากแล้วก็ตาม การเพิ่มพูนความรู้และอัพเดตข่าวสารทางธุรกิจอยู่ตลอดเวลา เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพื่อไปปรับใช้ในกลยุทธ์การทำงานขององค์กรนั่นเอง เช่น นักการตลาดออนไลน์ที่จำเป็นต้องคิดค้นหลักการต่างๆ เข้ามาเพื่อสร้างกลยุทธ์จากพฤติกรรมลูกค้าและรูปแบบการตลาดออนไลน์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลานั่นเอง เช่นเดียวกับบุคลากรอื่นๆ
8. หาความสุขในการทำงานให้กับตัวเอง
เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลจริงๆแล้วนั้นขึ้นอยู่กับตัวคุณ หากคุณมีความสุขในการทำงาน ผลงานที่ออกมาก็จะมีความเรียบร้อย ถูกต้องแม่นยำ และมีความละเอียดอ่อน แต่หากคุณไม่มีความสุขในการทำงาน งานที่ออกมาก็จะดูไม่เรียบร้อยและดูไม่ได้ตั้งใจเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นเมื่อคุณรู้ตัวว่า ตัวเองมีความรู้สึกเบื่อหรือเหนื่อยล้า ก็พยายามหาสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขในการทำงานมาช่วย เช่น สิ่งของตกแต่งโต๊ะ ฟังเพลงระหว่างการทำงาน หรือพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น
9. การพัฒนาตัวเองที่ดีคือ การคิดในแง่บวก
ทัศนคติเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต ซึ่งถ้าคุณเป็นคนคิดบวก มองโลกในแง่ดี เรื่องดี ๆ ก็จะเข้ามาหาคุณเอง และที่สำคัญ คุณจะดึงดูดมิตรภาพดี ๆ เข้ามาด้วย อย่างที่เขาว่ากันว่า คนประเภทเดียวกันก็จะดึงดูดคนแบบเดียวกัน ลองคิดดูสิ ว่าถ้าคุณคิดลบ ชีวิตก็จะมีแต่เรื่องลบ ๆ และคงไม่มีใครอยากคุยกับคุณด้วย
10. อย่าลืมพักผ่อนและดูแลตัวเอง
ข้อนี้ไม่เฉพาะคนที่อยากประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่ทุกคนควรจะต้องดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ทั้งเรื่องของอาหารการกิน สุขภาพร่างกายรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตครอบครัวให้ลงตัว ถ้าหาจุดกึ่งกลางที่เหมาะสมสำหรับทุกอย่างได้ บริหารจัดการเป็น ความสำเร็จก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
นี่ก็เป็นทั้งหมด 10 วิธี การพัฒนาตนเองในการทํางาน เพื่อการเติบโตก้าวหน้าในการทำงานของคุณ เพราะการทำงานนั้นไม่เพียงแต่เป็นการทำงานเพื่อเงินเดือนหรือเป็นการทำงานเพียงเพื่อการเติบโตของบริษัท แต่การทำงานที่มีประสิทธิภาพที่ดีนั้นคือ การเพิ่มพูนทักษะที่ดีและเติบโตไปพร้อมกับองค์กร
ศรีกรุงโบรคเกอร์ เป็นโบรคเกอร์ประกันครบวงจร ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2533 ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 48 แห่ง มีพันธมิตร มากกว่า 50 บริษัท มีพนักงานประจำที่จะคอยสนับสนุนนายหน้าประกันภัย มากกว่า 600 คน มีบริการเช็คเบี้ย แจ้งงาน 7 วัน 24 ชั่วโมง มีระบบฝึกอบรมมากกว่า 20 หลักสูตร ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อพัฒนาทักษะในต่านต่างๆ อย่างครองคลุม ศรีกรุงโบรคเกอร์เป็นหนึ่งในโบรคเกอร์ ที่ คปภ.คัดเลือก ให้เป็นโบรคเกอร์ดีเด่น 2 ปีซ้อน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพภายในองค์กร มีฐานะการเงินที่มั่นคง รวมทั้งดำเนินธุกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและมีธรรมาภิบาล นอกจากนี้ ศรีกรุงโบรคเกอร์ยังมีแผนการตลาดที่สุดยอด ไม่บังคับยอดขาย ตำแหน่งขึ้นแล้วไม่มีลง สามารถรับรายได้เดือนละเป็นแสนบาท/เดือน จากการสร้างและบริหารทีมขาย ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริษัทในด้านตางๆ ตลอดจนความเป็นเลิศและความทุ่มเทในการให้บริการลูกค้า ศรีกรุงโบรคเกอร์จึงเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับที่ต้องการจะทำธุรกิจประกันภัย
คลิกที่นี่.. หลังจากนั้น กรอกเอกสารให้ครบถ้วน เซ็นต์ชื่อด้วยปากกาน้ำเงิน
ส่งใบสมัคร บัตรประชาชน บัญชีธนาคาร และหลักฐานการโอนเงิน 200 บาท ให้ทีมงาน
เพียงแค่นี้ คุณก็สามารถซื้อประกันภัย ในราคาสมาชิก ตลอดชีพ หักค่าคอมฯ ได้ทันที
เว็บไซต์นี้จัดทำโดยทีมงานทิพย์วิจิตร ไม่ใช่เว็บไซต์ของบริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด ทีมงานจัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลการทำธุรกิจ และเป็นเครื่องมือโปรโมทธุรกิจแก่สมาชิกในสายงานเท่านั้น หากมีข้อสงสัย ติดต่อคุณพรรณธิภา โลเกตุ โทรศัพท์ 0863344563