ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือ Aging Society จากจำนวนประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตต่ำลง รวมถึงอัตราการเกิดของเด็กในประเทศที่ลดลงเช่นกัน โดยมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย ประเมินว่า ประเทศไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2564 เท่ากับว่าอีกไม่นาน เราจะมีประชากรผู้สูงอายุเป็นสัดส่วนหลักของประเทศ
การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของประชากรไทยทำให้สังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทยมีจำนวนมากกว่า 12 ล้านคน หรือประมาณ 18.94% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าเมื่อ 10 ปีก่อน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
สังคมผู้สูงอายุมีผลต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยผู้สูงอายุมักจะต้องการการดูแลและบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุนี้อาจเป็นภาระหนักต่อระบบการดูแลสุขภาพและระบบประกันสังคม ซึ่งอาจจะเกิดผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ
มีผลสำรวจออกมาว่าเรื่องที่ผู้สูงอายุกังวลมากที่สุดอันดับต้น ๆ ก็คือ ฐานะทางการเงินหลังเกษียณ ว่าจะมีเงินพอใช้หรือเปล่า เพราะช่วงหนุ่ม ๆ สาว ๆ วัยทำงาน อาจยังไม่เห็นความสำคัญ เลยไม่ค่อยได้วางแผนการเงินกันเท่าไหร่ ทำให้เป็นโอกาสของธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งยังสามารถเติบโตได้อีกมาก เพราะอายุเฉลี่ยของคนไทยที่มีทิศทางสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มีความเสี่ยงทางการเงินเมื่อวัยเกษียณเพิ่มขึ้นตามไปด้วย หลายคนจึงเลือกใช้นักการเงินมืออาชีพมาช่วยลดความเสี่ยงนี้ออกไปนั่นเอง
ธุรกิจประกันสุขภาพ และประกันชีวิต ยังมีโอกาสจะโตได้อีกมาก จากปัจจุบันที่คนไทยเริ่มมองห็นประโยชน์ของการทำประกันมากขึ้น และผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยให้บริษัทประกันต่าง ๆ ขายกรมธรรม์ได้สูงขึ้นตามไปด้วย เพราะสามารถคุ้มครองความเสี่ยงเรื่องสุขภาพของกลุ่มผู้สูงอายุได้ รวมทั้งปัจจุบัน คนไทยมีอัตราครอบครองกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับจำนวนประชากร จึงยังมีโอกาสที่ธุรกิจประกันจะเติบโตได้ จากฐานลูกค้าที่เหลืออยู่
ที่มา บางส่วนของบทความ 10 เทรนด์ธุรกิจที่จะมาแรงในอนาคต รองรับสังคมผู้สูงอายุ
วันที่ 3 มี.ค. 2564 | กรมกิจการผู้สูงอายุ | โดย กลุ่มเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพเครือข่าย กองส่งเสริมศักยภาพผู้สูงอายุ
เมื่อเรารู้แล้วว่าแนวโน้มของสังคมไทย และเราเองก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของคนในสังคมผู้สูงอายุในอนาคต ที่จะประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเสียชีวิตจะต่ำลง ทำให้เรามีอายุยืนยาวมากขึ้น เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น แต่อาจจะต้องแลกมาด้วยค่ารักษาและบริการที่แพงขึ้นด้วย
การวางแผนการเงิน และได้ที่ปรึกษาการเงิน หรือนายหน้าประกันชีวิต ให้คำปรึกษาวางแผนให้มีเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหลังจากที่เราเกษียณแล้ว และมีค่ารักษาพยาบาลที่เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น เครื่องมืออย่างหนึ่งที่สามารถทำให้เรามีเงินใช้ และมีสุขภาพที่ดี หากเรามีอายุยืนจนถึง 80 หรือ 90 ปี ได้ นั่นก็คือ การทำประกันที่จะมีเงินคืนมาเป็นรายได้ เพื่อเตรียมไว้เป็นค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นรายเดือน หรือรายปี พร้อมทั้งประกันสุขภาพดีๆ ซักเล่ม
วันนี้เรามาทำความรู้จักโครงสร้างและประกันที่เราควรจะเลือกเพื่อตอบโจทย์ การใช้ชีวิตหลังเกษียณกันคะ
ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ของการทำประกันแบบเข้าใจ อย่างสมบูรณ์ ให้นึกถึงภาพ ขบวนรถไฟ ซึ่งประกอบไปด้วย หัวรถจักร และโบกี้รถไฟ
หัวรถจักร คือ สัญญาหลัก (แบบประกัน 4 แบบ) แบบตลอดชีพ แบบสะสมทรัพย์ แบบเงินได้ประจำ หรือแบบบำนาญ แบบควบการลงทุน และ สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครอง เช่น 1. อุบัติเหตุพิเศษ (AI) 2. อุบัติเหตุธรรมดา (ADD) 3. ขยายความคุ้มครอง อุบัติเหตุ (RCC) 4. คุ้มครองทุพลลภาพสิ้นเชิงถาวร(WP) 5. คุ้มครองสุขภาพ (H&S) 6. ค่ารักษาพยาบาลรายวัน (IPD) 7. ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) 8. คุ้มครองโรคร้ายแรง (DD) 9. คุ้มครองโรคมะเร็ง (CR) 10. คุ้มครองผู้ชำระเบี้ย (PB) 11. เพิ่มเติมประกันสุขภาพ (HS Plus)
ตัวอย่าง การออกแบบกรมธรรม์ ที่เหมาะกับเทรน "สังคมผู้สูงอายุ หรือ Aging Society "เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายยาวๆ หลังเกษียณจนถึงอายุ 80 หรือ 90 ปี และประกันสุขภาพดีๆซักเล่ม และข้อดี ของแบบประกัน
เป็นการลงทุนที่ให้ผู้เอาประกันได้รับเงินคืนหลังจากเกษียณอายุหรือหยุดทำงาน โดยมีข้อดีดังนี้
การออมเงินในระยะยาว - การชำระเงินเป็นเงินประจำเป็นการออมเงินในระยะยาว ผู้เอาประกันสามารถตัดสินใจว่าจะชำระเงินเป็นเวลา 10 ปี 15 ปีหรือ 20 ปี ซึ่งจะช่วยให้ผู้เอาประกันสามารถออมเงินในระยะยาวได้
ความมั่นคงในการเงิน - การเลือกซื้อแบบประกันแบบบำนาญจะช่วยให้มีความมั่นคงในการเงินในอนาคต โดยผู้เอาประกันจะได้รับเงินคืนหลังจากเกษียณอายุหรือหยุดทำงาน ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการใช้ชีวิตหลังเกษียณได้
การลงทุนที่ปลอดภัย - แบบประกันแบบบำนาญเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย โดยการชำระเงินเป็นเงินประจำ จะช่วยให้ผู้เอาประกันมีเงินออมที่ปลอดภัยจากการลงทุนที่เสี่ยง
การรับประโยชน์สูง - แบบประกันแบบบำนาญจะมีการจ่ายเงินคืนให้ผู้เอาประกันโดยมีอัตราดอกเบี้ยสูง ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มเงินออมในอนาคตได้อย่างมากมาย
ระยะเวลาของกรมธรรม์ยาว -แบบประกันเหมาะที่จะซื้อควบคู่กับประกันสุขภาพดีๆ ซักเล่ม เพราะสัญญาประกันสุขภาพจะ สิ้นสุดตามระยะเวลาเอาประกันของกรมธรรม์หลักด้วย ดังนั้น หากกรมธรรม์มีสิ้นสุดเมื่อผู้เอาประกันอายุ 80 หรือ 90 ก็เป็นข้อดีของแบบประกัน
เป็นการลงทุนที่ช่วยให้ผู้เอาประกันได้รับการปกป้องความเสี่ยงจากการป่วยหรือบาดเจ็บโดยมีข้อดีดังนี้
ป้องกันค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น - หากผู้เอาประกันป่วยหรือบาดเจ็บ การมีประกันสุขภาพจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้นเนื่องจากการรักษาพยาบาลในปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรง
ประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล - การมีประกันสุขภาพจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเนื่องจากการเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและการตรวจสุขภาพสามารถรับค่าเงินคืนได้
ตัวอย่าง ซัมซุงนำนาญ 85/55 : ผู้เอาประกันเพศหญิง อายุ 35 ปี เอาประกันจนถึงอายุ 85 ปี ชำระเบี้ยประกันจนถึงอายุ 55 ปี ทุนประกันชีวิต 500,000 บาท เบี้ยประกัน 44,985 บาท/ปี จะได้รับบำนาญ 12% ของทุนเอาประกันทุกปีเป็นเงิน 60,000 บาท/ปี จนถึงอายุ 85 ปี
ทั้งนี้ การได้ที่ปรึกษาทางการเงิน หรือนายหน้าประกันชีวิต ที่ช่วยวางแผน หรือชี้ช่องในการเลือกแผนประกัน และบริษัทประกันดีๆ เล่มต่อไป "ศรีกรุงโบรคเกอร์ประกันชีวิต " มีนายหน้าประกันชีวิตมืออาชีพที่จะช่วยออกแบบกรมธรรม์ และ ชี้ช่อง ให้ลูกค้าได้กรมธรรม์ที่เหมาะกับความต้องการ โดยมี "พันธมิตร 16 บริษัทประกันชีวิต" ชั้นนำ ให้ลูกค้าได้มีช่องทางในการตัดสิน หากสนใจที่จะวางแผนซื้อประกันเล่มต่อไป เรายินดีให้บริการ
ศรีกรุงโบรคเกอร์ เป็นโบรคเกอร์ประกันครบวงจร ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2533 ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 48 แห่ง มีพันธมิตร มากกว่า 50 บริษัท มีพนักงานประจำที่จะคอยสนับสนุนนายหน้าประกันภัย มากกว่า 600 คน มีบริการเช็คเบี้ย แจ้งงาน 7 วัน 24 ชั่วโมง มีระบบฝึกอบรมมากกว่า 20 หลักสูตร ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อพัฒนาทักษะในต่านต่างๆ อย่างครองคลุม ศรีกรุงโบรคเกอร์เป็นหนึ่งในโบรคเกอร์ ที่ คปภ.คัดเลือก ให้เป็นโบรคเกอร์ดีเด่น 2 ปีซ้อน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพภายในองค์กร มีฐานะการเงินที่มั่นคง รวมทั้งดำเนินธุกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและมีธรรมาภิบาล นอกจากนี้ ศรีกรุงโบรคเกอร์ยังมีแผนการตลาดที่สุดยอด ไม่บังคับยอดขาย ตำแหน่งขึ้นแล้วไม่มีลง สามารถรับรายได้เดือนละเป็นแสนบาท/เดือน จากการสร้างและบริหารทีมขาย ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริษัทในด้านตางๆ ตลอดจนความเป็นเลิศและความทุ่มเทในการให้บริการลูกค้า ศรีกรุงโบรคเกอร์จึงเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับที่ต้องการจะทำธุรกิจประกันภัย
คลิกที่นี่.. หลังจากนั้น กรอกเอกสารให้ครบถ้วน เซ็นต์ชื่อด้วยปากกาน้ำเงิน
ส่งใบสมัคร บัตรประชาชน บัญชีธนาคาร และหลักฐานการโอนเงิน 200 บาท ให้ทีมงาน
เพียงแค่นี้ คุณก็สามารถซื้อประกันภัย ในราคาสมาชิก ตลอดชีพ หักค่าคอมฯ ได้ทันที
เว็บไซต์นี้จัดทำโดยทีมงานทิพย์วิจิตร ไม่ใช่เว็บไซต์ของบริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด ทีมงานจัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลการทำธุรกิจ และเป็นเครื่องมือโปรโมทธุรกิจแก่สมาชิกในสายงานเท่านั้น หากมีข้อสงสัย ติดต่อคุณโอภาส ขวัญสมคิด โทรศัพท์ 0942515184