อาชีพตัวแทนประกันชีวิต เป็นอาชีพหนึ่งที่ดีและมีประโยชน์ ทั้งต่อตัวเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ เป็นอาชีพหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้ตัวแทนได้เร็ว เป็นอาชีพที่ช่วยเหลือสังคมด้วยการวางแผนให้ประชาชนคนทั่วไป มีความมั่นคงและปลอดภัยในชีวิตเพิ่มขึ้น ด้วยโครงการต่างๆ อาทิเช่น โคงการประกันสุขภาพ โครงการทุนการศึกษาบุตร โครงการกองทุนมรดก โครงการชดเชยรายได้ โครงการบำนาญเกษียณอายุ และโครงการอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งโครงการต่างๆดังที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นโครงการที่ดีและมีประโยชน์ เหมาะสมกับทุกเพศทุกช่วงวัยในการดำเนินชีวิต
ซึ่งตัวแทนมืออาชีพมักใช้คำเรียกอาชีพตัวเองอยู่เสมอๆว่า ที่ปรึกษาทางการเงิน หรือLife Planner ก็แล้วแต่จะตั้งชื่อกันไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวแทนประกันชีวิตทุกคนที่เข้ามาทำอาชีพนี้ ก็จะต้องดำรงไว้ซึ่งจรรยาบรรณในวิชาชีพและระเบียบของคปภ.ด้วยกันทุกคน
มุมมองของลูกค้าและคนทั่วๆไป(ในอดีต)ที่ยังไม่รู้หรือยังค่อยเข้าใจธุรกิจประกันชีวิต
มักมองว่าอาชีพตัวแทนประกันชีวิต เป็นอาชีพที่ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ เป็นอาชีพที่ไม่ค่อยมีใครอยากเข้ามาทำ บางคนอาจพูดว่าอาชีพนี้ใครๆก็เข้ามาทำได้ จะเรียนจบชั้นไหน มีวุฒิอะไรหรือไม่ก็ทำได้ เข้ามาทำสักพักก็ออกไปหางานอื่นทำ ซึ่งก็มีส่วนที่ถูกต้องในบางเรื่อง แต่อาจไม่ใช่ทั้งหมดก็เป็นได้ บางคนเหล่านั้นที่พูดมาแบบนี้ เขาอาจจะมีประสบการณ์ไม่ดีกับตัวเอง เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง หรือข่าวเชิงลบตามสื่อต่างๆก็อาจเป็นไปได้
ซึ่งตัวแทนประกันชีวิต(ในอดีต)บางคนก็อาจจะเป็นอย่างที่คนบางคนเหล่านั้นพูดมา เช่นคำพูดที่ว่า อาชีพตัวแทนประกันชีวิต เขาก็มักชอบตื้อ ง้อ ขอ ขาย กัน หรือตัวแทนบางคนใช้บทขายไม่ได้ผล ก็ใช้บทขอเอาดื้อๆซะเลย เปลี่ยนจากเซลทอล์ค มาเป็นเซลทุบ อะไรทำนองนั้น หรือบางคนก็คะยั้นคะยอให้ซื้อเพิ่มอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า จนน่ารำคาญก็มี ซึ่งสมัยนี้ตัวแทนประกันชีวิตที่เคยทำแบบนั้น อาจจะไม่มีแล้ว ก็เป็นไปได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ตัวแทนประกันชีวิตที่ดีและยึดเป็นอาชีพ ก็ยังคงต้องดำรงไว้ซึ่งจรรยาบรรณในวิชาชีพของตัวเองให้ดีที่สุด
มุมมองของลูกค้าและคนทั่วๆไป(ในปัจจุบัน)ที่เริ่มรู้และเข้าใจ ธุรกิจประกันชีวิตมากขึ้น
ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป กับทั้งมีวิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้ามามีมีบทบาทในชีวิตของมนุษย์มากขึ้น จึงทำให้ทั้งลูกค้าและตัวแทนประกันชีวิต เริ่มเข้าถึงบริบท ของความสำคัญในธุรกิจประกันชีวิตเพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีต จึงมีการพัฒนาระบบต่างๆของบริษัทเพื่อให้ตัวแทนประกันชีวิต เข้าถึงลูกค้าและประชาชนมากขึ้น กับทั้งตัวลูกค้าและประชาชนเองก็เริ่มเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญในการสร้างความปลอดภัยและความมั่นคงให้ตัวเองและครอบครัวด้วยการวางแผนชีวิต ในรูปแบบและระบบของการทำประกันชีวิตมากขึ้น รวมไปถึงสื่อโฆษณาในช่องทางต่างๆ จึงทำให้ตัวแทนประกันชีวิตเข้ามามีบทบาท และภาพลักษณ์ที่ดีในสังคมมากขึ้น และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ตัวแทนประกันชีวิต(จำเป็น)ที่จะต้องพัฒนาตัวเองให้ครอบคลุมครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าและประชาชนมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการมีใบอนุญาตเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งใบ ซึ่งก็คือใบอนุญาตนายหน้าวินาศภัย ดังคำกล่าวที่ว่า "มีใบอนุญาต2ใบ ย่อมดีกว่ามีใบเดียว"
แต่ทั้งนี้การมีใบอนุญาตเพิ่มขี้นอีกหนึ่งใบนั้น "จำเป็นอย่างยิ่ง" ที่จะต้องมีระบบที่ดีมารองรับด้วย ซึ่งระบบที่ดีเป็นอย่างไรนั้น เราจะมาว่ากันในตอนท้ายของบทความนี้
ก่อนอื่น เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมตัวแทนประกันชีวิต ถึงควรต้องมีใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย ควบคู่กันไปในการประกอบอาชีพนี้ด้วย
1.เหตุผลประการแรก คือ เพื่อเป็นการตอบโจย์ให้ลูกค้าของเราได้รับสิทธิประโยชน์ได้อย่างครอบคลุมและครบวงจร
2.เหตุผลประการที่สอง คือ เพื่อให้ตัวแทนประกันชีวิตมี รายได้แบบPassive income เพิ่มขึ้นอีกช่องทางหนึ่ง
ทีนี้เราก็มาดูกันว่าลูกค้าประกันชีวิตของเพื่อนๆตัวแทน(ส่วนมาก)ก็ล้วนมีบ้าน มีรถ มีธุรกิจกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นรถเล็ก รถใหญ่ รถมอเตอร์ไซด์ หรือธุรกิจอะไรๆก็ตาม ก็ล้วนเป็นเรื่องที่ประกันวินาศภัยสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานของเพื่อนๆตัวแทนควบคู่กันได้อย่างดี และเป็นเรื่องใกล้ตัวของลูกค้าด้วย เช่น การทำประกันภาคบังคับ(พ.ร.บ.)หรือการทำประกันภาคสมัครใจ เช่นประกันชั้น1,2,3,2+,3+ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีประกันภัยทรัพย์สิน ประกันอัคคีภัย ประกันภัยเดินทาง และประกันภัยอื่นๆอีกมากมาย ที่เพื่อนๆตัวแทนประกันชีวิต สามารถแนะนำลูกค้าเพิ่มเติมได้อย่างครบวงจร ซึ่งเป็นการเพิ่มความประทับใจให้ลูกค้าของเพื่อนๆตัวแทนประกันชีวิตได้มากขึ้นอีกด้วย และนอกจากนั้น ยังเป็นการต่อยอดเพิ่มฐานลูกค้าแบบ(ถาวร)และเพิ่มรายได้แบบPassive incomeให้เพื่อนๆตัวแทนได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย
ทีนี้เรามาดูคำนิยามของคำว่า"ตัวแทน" กับ "นายหน้า" ว่ามันมีบริบทในลักษณะหน้าที่ ที่แตกต่างกันอย่างไร
"ตัวแทนประกันชีวิต" มีหน้าที่ชักชวนให้บุคคลนั้นๆเข้าทำสัญญา กับบริษัทที่ตัวแทนประกันชีวิตสังกัดอยู่เท่านั้น ส่วน "นายหน้าประกันวินาศภัย" มีหน้าที่ชี้ช่องให้บุคคลเข้าทำสัญญากับบริษัทประกันภัยต่างๆได้หลากหลายบริษัท
โดยตัวแทน หรือนายหน้า จะได้รับผลประโยชน์จากบริษัทประกันชีวิต หรือประกันวินาศภัยนั้นๆตามระเบียบและเงื่อนไขด้วย ซึ่งไม่ว่าตัวแทน หรือนายหน้า ก็ล้วนต้องทำหน้าที่ ที่คล้ายๆกัน แม้มีคำเรียกที่ต่างกันว่า"ชักชวน"หรือ"ชี้ช่อง" นั่นก็คือ "การขาย" ซึ่งถ้าหากตัวแทน หรือนายหน้าไม่ว่าจะชักชวนหรือชี้ช่องได้สำเร็จ ก็ล้วนนำมาซึ่งรายได้ ซึ่งโดยทั่วๆไปมักเรียกกันว่า"ค่าคอมมิชชั่น"
ค่าบำเหน็จ หรือค่าคอมมิชชั่นนั้น ล้วนเป็นรายได้ที่เพื่อนๆตัวแทนและนายหน้าได้มาจาก"การขาย" ซึ่งการขาย เป็นเรื่องที่ดี และนำมาซึ่ง"รายได้" ของเพื่อนๆตัวแทนและนายหน้า แต่ถ้าหยุดขายล่ะ!! จะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งไม่ต้องตอบ
ก็รู้กันอยู่แล้วว่า ตัวแทนและนายหน้านั้นก็จะไม่มีรายได้นั่นเอง ซึ่งรายได้แบบนี้เรียกว่ารายได้แบบActive income คือ "หยุดขาย รายได้ก็หยุด" แต่จะดีกว่ามั้ย? ถ้ามีระบบที่ดีมารองรับการขายของเพื่อนๆตัวแทนประกันชีวิต ด้วยการมีใบอนุญาตเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งใบ(นายหน้าประกันวินาศภัย) ให้เพื่อนๆตัวแทนมีรายได้ที่เป็นแบบPassive income (หยุดขาย แต่รายได้ไม่หยุด)เพิ่มขึ้นอีกช่องทางหนึ่ง ระบบที่ดีแบบนี้ คือระบบMGM (member get member)เป็นระบบที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ให้ประชาชนทุกคนและรวมถึงตัวแทนประกันชีวิตด้วย เพื่อให้เข้าถึงการประหยัดค่าใช้จ่าย(ตลอดชีพ)ในการทำประกันภัยทุกประเภทได้
ซึ่งผู้คิดค้นระบบที่ดีและมีประโยชน์กับเพื่อนๆตัวแทนประกันชีวิตและประชาชนทุกคน คือ คุณศรีกรุง อรุณสวัสดี ประธานกรรมการ บริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด โดยระบบนี้ได้มีใช้กันอย่างแพร่หลายมากกว่าสิบปีแล้ว เป็นระบบที่ดีและมีประโยชน์ต่อประชาชน สังคมและเพื่อนๆร่วมธุรกิจทั้งในระบบประกันชีวิตและประกันวินาศภัยเป็นอย่างมาก
สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆร่วมธุรกิจและเพื่อนๆตัวแทนประกันชีวิตทุกบริษัท ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการประกอบวิชาชีพอย่างสุจริต และมีความสนใจที่ต้องการสร้างรายได้แบบPassive income เพื่อบรรลุเป้าหมายในชีวิต และประสบความสำเร็จในธุรกิจด้วยกันทุกคน
ศรีกรุงโบรคเกอร์ เป็นโบรคเกอร์ประกันครบวงจร ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2533 ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 48 แห่ง มีพันธมิตร มากกว่า 50 บริษัท มีพนักงานประจำที่จะคอยสนับสนุนนายหน้าประกันภัย มากกว่า 600 คน มีบริการเช็คเบี้ย แจ้งงาน 7 วัน 24 ชั่วโมง มีระบบฝึกอบรมมากกว่า 20 หลักสูตร ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อพัฒนาทักษะในต่านต่างๆ อย่างครองคลุม ศรีกรุงโบรคเกอร์เป็นหนึ่งในโบรคเกอร์ ที่ คปภ.คัดเลือก ให้เป็นโบรคเกอร์ดีเด่น 2 ปีซ้อน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพภายในองค์กร มีฐานะการเงินที่มั่นคง รวมทั้งดำเนินธุกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและมีธรรมาภิบาล นอกจากนี้ ศรีกรุงโบรคเกอร์ยังมีแผนการตลาดที่สุดยอด ไม่บังคับยอดขาย ตำแหน่งขึ้นแล้วไม่มีลง สามารถรับรายได้เดือนละเป็นแสนบาท/เดือน จากการสร้างและบริหารทีมขาย ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริษัทในด้านตางๆ ตลอดจนความเป็นเลิศและความทุ่มเทในการให้บริการลูกค้า ศรีกรุงโบรคเกอร์จึงเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับที่ต้องการจะทำธุรกิจประกันภัย
คลิกที่นี่.. หลังจากนั้น กรอกเอกสารให้ครบถ้วน เซ็นต์ชื่อด้วยปากกาน้ำเงิน
ส่งใบสมัคร บัตรประชาชน บัญชีธนาคาร และหลักฐานการโอนเงิน 200 บาท ให้ทีมงาน
เพียงแค่นี้ คุณก็สามารถซื้อประกันภัย ในราคาสมาชิก ตลอดชีพ หักค่าคอมฯ ได้ทันที
เว็บไซต์นี้จัดทำโดยทีมงานทิพย์วิจิตร ไม่ใช่เว็บไซต์ของบริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด ทีมงานจัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลการทำธุรกิจ และเป็นเครื่องมือโปรโมทธุรกิจแก่สมาชิกในสายงานเท่านั้น หากมีข้อสงสัย ติดต่อคุณวรัญญู พรหมสาขา ณ สกลนคร โทรศัพท์ 0642645652